วิธีไม่ Overtrade: ลดความเสี่ยง คุมพอร์ต เทรดทองอย่างมีวินัย
การเทรดทองหากทำอย่างมีวินัยสามารถสร้างผลกำไรในระยะยาว แต่ปัญหาที่เทรดเดอร์จำนวนมากพบเจอคือ “Overtrade” หรือการเทรดมากเกินไปโดยไม่จำเป็น ซึ่งมักเกิดจากความอยากได้กำไรเร็วหรือแก้มือจากการขาดทุนครั้งก่อน ผลลัพธ์คือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และความผิดพลาดที่ตามมาอย่างไม่จบสิ้น
บทความนี้จะพาคุณเข้าใจ Overtrade คืออะไร พร้อมแนะนำ วิธีไม่ Overtrade และสอนวิธีคำนวณ Lot ในการเทรดทอง รวมถึงการบริหารพอร์ตตามทฤษฎีที่วางใจได้ เพื่อให้คุณสามารถควบคุมความเสี่ยงและเดินหน้าสู่การเทรดอย่างยั่งยืน
1. Overtrade คืออะไร
“Overtrade” คือการเทรดมากเกินความจำเป็นในระยะเวลาหนึ่ง อาจเกิดจากการเปิดสถานะหลายคำสั่งมากเกินไป หรือลงทุนด้วยขนาดสัญญาที่ใหญ่เกินไปเทียบกับเงินทุน โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยง ผลที่ตามมาคือความเครียด ความผิดพลาด และการล้างพอร์ตได้ง่าย
สาเหตุหลักของ Overtrade มักมาจากอารมณ์ เช่น ความกลัวตกขบวน (FOMO) อยากแก้ตัวจากการขาดทุน หรือความโลภที่อยากได้กำไรเร็ว การขาดการวางแผน การไม่ตั้ง Stop Loss การไม่คำนวณ Lot ให้เหมาะสมล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งเสริม Overtrade
2. วิธีเทรดทอง ไม่ให้ Overtrade
เพื่อป้องกันไม่ให้คุณเข้าสู่สภาพ Overtrade คุณต้องมีวินัยและเตรียมแผนการเทรดไว้ล่วงหน้า ข้อควรระวังและแนวทางปฏิบัติมีดังนี้:
2.1 กำหนดเป้าหมายรายวัน
ก่อนเริ่มวันเทรด ให้คุณตั้งเป้าหมายกำไรหรือขาดทุนสูงสุดของวัน หากคุณได้กำไรตามเป้าหมายแล้วก็ควรหยุด หรือหากขาดทุนถึงจุดที่คุณตั้งไว้ก็ควรยอมรับความจริงและหยุดเทรดในวันนั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการ Overtrade ที่อยากแก้มือ
2.2 ใช้แผนการเทรดที่ชัดเจน
มีการวิเคราะห์ก่อนเข้าซื้อหรือขายทอง ว่าแนวรับ-แนวต้านอยู่ตรงไหน เข้าตรงจุดไหน ออกตรงจุดไหน ถ้าราคาวิ่งผิดคาดจะ Stop Loss ตรงไหน การมีแผนจะลดการเทรดแบบอารมณ์ฉับพลัน
2.3 ตั้งจำนวนคำสั่งต่อวัน
ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองชอบคลิกคำสั่งบ่อย ลองตั้งกฎว่า วันหนึ่งจะเปิดสถานะไม่เกินกี่ครั้ง หากครบแล้วต้องหยุด แม้ว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างน่าตื่นเต้นก็ตาม
3. วิธีคำนวณ Lot ในการเทรดทอง
การคำนวณขนาดสัญญาหรือ Lot อย่างเหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยง Overtrade เพราะหากคุณใช้ Lot ใหญ่เกินไปเทียบกับเงินทุน การเคลื่อนไหวของราคาเล็กน้อยอาจทำให้คุณสูญเสียเงินจำนวนมากในพริบตา
3.1 วิธีคำนวณขนาด Lot
สมมติว่าคุณมีเงินทุน $1,000 และต้องการเสี่ยงไม่เกิน 1% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง นั่นแปลว่าคุณยอมขาดทุนไม่เกิน $10 ต่อคำสั่ง หากจุด Stop Loss อยู่ห่างจากจุดเข้า 100 pip (หรือ 100 จุดตามหน่วยวัด) คุณต้องเลือกขนาด Lot ที่เมื่อราคาเคลื่อนที่ 100 pip ตรงข้ามกับคุณ คุณจะขาดทุนไม่เกิน $10
หาก 1 pip = $0.1 สำหรับ Lot ที่คุณเลือก 100 pip = $10 หมายความว่า คุณควรใช้ Lot ขนาด 0.01 เพื่อลดความเสี่ยง อย่าลืมปรับการคำนวณตามเงื่อนไขจริงของโบรกเกอร์และปริมาณการเคลื่อนไหวของราคาทอง
3.2 อย่าเพิ่ม Lot ทันทีหลังขาดทุน
หลายคนพลาดตรงนี้ เมื่อขาดทุนมักเพิ่ม Lot เพื่อแก้มือ สุดท้ายกลับทำให้ Overtrade และขาดทุนมากขึ้น ควรเพิ่ม Lot เฉพาะเมื่อคุณมั่นใจและพอร์ตเติบโตพอสมควร
4. การบริหารพอร์ตในการเทรดทอง
4.1 ปรับความเสี่ยงต่อการเทรด
ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของพอร์ตต่อการเทรดหนึ่งครั้ง หากคุณมีพอร์ต $10,000 ความเสี่ยง 1% คือ $100 อย่าพยายามเสี่ยงเกินนี้เพื่อผลกำไรที่รวดเร็ว เพราะจะนำไปสู่ Overtrade ได้ง่าย
4.2 กระจายความเสี่ยง
แม้คุณจะโฟกัสที่ทองคำเป็นหลัก แต่สามารถพิจารณาคู่เงินหรือสินทรัพย์อื่นเล็กน้อยเพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่ควรทุ่มทั้งหมดในคำสั่งเดียว เพราะหากผิดพลาดจะเสียหายมาก
4.3 จัดสรรกำไร
เมื่อคุณได้กำไรจากการเทรดตามแผน ลองถอนส่วนหนึ่งออกมาบ้าง หรือแยกเก็บบางส่วนไว้ อย่าใช้ผลกำไรทั้งหมดไปเสี่ยงต่อ เพราะอาจทำให้คุณ Overtrade โดยไม่ตั้งใจ
5. ทฤษฎีบริหารพอร์ตในการเทรดทอง
5.1 ทฤษฎี Kelly Criterion
Kelly Criterion เป็นสูตรทางคณิตศาสตร์ที่ช่วยคำนวณขนาดการลงทุนที่เหมาะสมตามโอกาสชนะและอัตราผลตอบแทน แต่ต้องระวังเพราะมันมักให้ขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ คนส่วนมากปรับใช้อย่างระมัดระวังเพียงบางส่วน
5.2 ทฤษฎีการเสี่ยงแบบ Fixed Fractional
คือการกำหนดเปอร์เซ็นต์เสี่ยงคงที่ต่อการเทรด แต่ละคำสั่ง เช่น 1% ของทุน หากพอร์ตโตขึ้น คุณเพิ่มขนาดตามทุนที่โต หากพอร์ตลดลง คุณลดขนาดลง วิธีนี้ทำให้คุณไม่ Overtrade และรักษาเสถียรภาพพอร์ตในระยะยาว
5.3 ทฤษฎีการเสี่ยงแบบ Fixed Ratio
Fixed Ratio คือการเพิ่มหรือลดขนาด Lot ตามเป้าหมายกำไรที่ทำได้ เมื่อคุณทำกำไรได้ตามเกณฑ์จึงเพิ่มขนาดการเทรดครั้งถัดไปเล็กน้อย หากขาดทุนก็ไม่เพิ่ม Lot จนกว่าจะกู้คืนสัดส่วนการเติบโตของทุน วิธีนี้ช่วยให้คุณค่อย ๆ เร่งขนาดการลงทุนโดยไม่เสี่ยงมากเกินไป
6. วิธีไม่ Overtrade ด้วยวินัยและอารมณ์ที่มั่นคง
แม้คุณจะมีแผนการเทรดและทฤษฎีบริหารพอร์ตที่ดี แต่ถ้าควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ก็ยังเสี่ยงที่จะ Overtrade ฉะนั้นการฝึกฝนจิตวิทยาการเทรดเป็นอีกสิ่งสำคัญ:
6.1 ยอมรับความผิดพลาด
หากคุณขาดทุน ยอมรับและอย่าพยายามเอาคืนทันที เพื่อลดความเสี่ยงในการ Overtrade การแก้มืออย่างรีบร้อนคือทางลัดสู่การขาดทุนซ้ำซ้อน
6.2 ตั้งกฎจำนวนคำสั่งต่อวัน
อย่างที่กล่าวไว้ ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองชอบคลิกคำสั่งบ่อย ตั้งกฎว่าถ้าเทรดเกิน 3 ครั้งต่อวันแล้วต้องหยุด ไม่ว่ากำไรหรือขาดทุน วิธีนี้ช่วยให้คุณมีจุดหยุดที่ชัดเจน
6.3 สังเกตสภาพตลาด
บางวันตลาดเงียบ สเปรดกว้าง ข่าวไม่มี หรือราคาทองเคลื่อนไหวง่วงซึม วันแบบนี้อาจไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเทรดมากเกินไป ควรรอวันที่ตลาดมีโอกาสที่ชัดเจน
7. ได้กำไรอย่างมั่นคงในระยะยาว
การไม่ Overtrade เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณทำกำไรได้สม่ำเสมอในระยะยาว แม้บางครั้งคุณอาจได้กำไรน้อยลงในบางวัน หรือพลาดโอกาสบ้าง แต่การควบคุมความเสี่ยงและรักษาเงินทุนให้คงอยู่คือหัวใจของการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
เมื่อคุณเทรดทองตามแผน ไม่ Overtrade มีการคำนวณ Lot ที่เหมาะสม ควบคุมอารมณ์ และใช้ทฤษฎีบริหารพอร์ตเข้ามาช่วย คุณจะพบว่าการเทรดกลายเป็นระบบและมีความมั่นคงมากขึ้น
8. สรุป วิธีไม่ Overtrade
“วิธีไม่ Overtrade” เริ่มต้นจากการมีวินัย กำหนดเป้าหมายรายวัน ตั้งจำนวนคำสั่งต่อวัน หลีกเลี่ยงการแก้มือโดยเพิ่ม Lot หรือเทรดเพิ่มหลังขาดทุน การคำนวณ Lot อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงต่อคำสั่ง รวมถึงการใช้ทฤษฎีบริหารพอร์ต เช่น Fixed Fractional หรือ Fixed Ratio เข้ามาช่วยวางแผนการเติบโตอย่างมั่นคง
ความสำเร็จในการเทรดทองไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเทรดบ่อย แต่ขึ้นอยู่กับการเทรดอย่างมีคุณภาพ เมื่อคุณไม่ Overtrade คุณจะลดความผิดพลาด จากนั้นผลลัพธ์ทางการเงินที่ดีจะตามมาในระยะยาว